เนื้อหาของคอร์ส
หินและซากดึกดำบรรพ์
หินเป็นวัสดุแข็งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ประกอบด้วย แร่ตั้งแต่หนึ่งชนิดขึ้นไป สามารถจำแนกหินตามกระบวนการเกิดได้เป็น 3 ประเภท
ตัวอย่างหิน (สัปดาห์ที่ 2)
0/1
ทดสอบความรู้ (สัปดาห์ที่ 3 )
0/1
ซากดึกดำบรรพ์ (สัปดาห์ที่ 4 )
0/1
การเกิดซากดึกดำบรรพ์ (สัปดาห์ที่ 4)
0/1
ประโยชน์ของซากดึกดำบรรพ์ (สัปดาห์ที่ 5)
0/1
ลม และเครื่องบอกทิศทางลม (สัปดาห์ที่ 6)
0/1
ลมบก ลมทะเล (สัปดาห์ที่ 7)
0/1
ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (สัปดาห์ที่ 8)
0/1
ผลของลมบก ลมทะเล และลมมรสุม (สัปดาห์ที่ 8)
0/1
ภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัย (สัปดาห์ที่ 10)
0/1
การกัดเซาะชายฝั่ง (สัปดาห์ที่ 12)
0/1
การเกิดอุปราคา (สัปดาห์ที่ 14)
0/2
การเกิดปรากฏกาณ์สุริยุปราคา (สัปดาห์ที่ 15)
0/2
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (สัปดาห์ที่ 16)
0/1
ประโยชน์ของเทคโนโลยี (สัปดาห์ที่ 17)
0/1
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว16101 ป.6 ภาคเรียนที่ 2
เกี่ยวกับบทเรียน

แนวทางในการปฏิบัติตนเพื่อลดการก่อแก๊สเรือนกระจก

  1. ลดโลกร้อนด้วยการกินอาหารท้องถิ่นให้มากขึ้นเพื่อลดการขนส่งอาหารหรือวัตถุดิบจากต่างถิ่น จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกที่มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของยานพาหนะที่ใช้ขนส่งอาหารและวัตถุดิบ ทั้งยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น ช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนมากขึ้นอีกด้วย
  2. ลดโลกร้อนด้วยการลดบริโภคเนื้อสัตว์เพราะการทำปศุสัตว์อาจนำไปสู่การเผาป่า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์  ซึ่งการเผาป่าทำให้เกิดก๊าซพิษมากมาย นอกจากนั้น การทำปศุสัตว์โดยเฉพาะสัตว์เคี้ยวเอื้องอย่างวัว ยังก่อให้เกิดก๊าซมีเทนจากมูลสัตว์ปริมาณมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
  3. ลดโลกร้อนด้วยการกินอาหารให้หมดไม่เหลือทิ้งหากการลดบริโภคเนื้อสัตว์เป็นเรื่องยาก ก็แนะนำให้กินอาหารให้หมด เพราะขยะจากอาหารเหลือทิ้งที่หมักหมมกันนั้นก่อให้เกิดก๊าซมีเทนเช่นกัน
  4. ลดโลกร้อนด้วยการกินอาหารแช่แข็งให้น้อยลงเพราะตั้งแต่กระบวนการผลิต กระบวนการเก็บรักษา ไปจนถึงกระบวนการขนส่งอาหารแช่แข็ง ล้วนแต่ใช้พลังงานปริมาณมาก และก่อให้เกิดก๊าซพิษ นอกจากนั้น การกินอาหารแช่แข็งเป็นประจำ ยังเป็นการเพิ่มปริมาณขยะพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์มากขึ้นอีกด้วย
  5. ลดโลกร้อนด้วยการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟLED หากใครยังใช้หลอดไฟแบบเก่า หรือหลอดไส้ แนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นหลอดตะเกียบ หรือหลอดไฟ LED เพราะกินไฟน้อยกว่า สว่างมากกว่า มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และอาจจะช่วยประหยัดค่าไฟลงได้อีกด้วย
  6. ลดโลกร้อนด้วยการเปลี่ยนตู้เย็นเครื่องใหม่เพราะตู้เย็นเก่าๆ ที่ประสิทธิภาพลดลงต้องใช้พลังงานมากในการทำความเย็นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะกินไฟมากกว่าตู้เย็นใหม่ที่ประสิทธิภาพดีกว่าถึง 2 เท่า และยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าอีกด้วย หากคุณใช้ตู้เย็นเครื่องเก่ามานานกว่า 10 ปี แนะนำให้ซื้อตู้เย็นใหม่ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธี หมั่นละลายน้ำแข็ง ไม่แช่ของร้อนในตู้เย็น เพื่อลดการใช้พลังงานในการทำความเย็นลง 
  7. ลดโลกร้อนด้วยการเลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์น้อยชิ้นเพราะสินค้าบางชนิดอาจมาพร้อมบรรจุภัณฑ์หลายชั้น ซึ่งนอกจากจะใช้พลังงานในกระบวนการผลิตเยอะขึ้นแล้ว บรรจุภัณฑ์ชั้นนอกที่ไม่สามารถนำไปใช้ซ้ำได้ อาจเป็นการเพิ่มขยะพลาสติกไปโดยไม่รู้ตัว นอกจากนั้น สินค้าที่สามารถเติมใหม่ได้ เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม ก็แนะนำให้ใช้แบบถุงเติม จะช่วยลดขยะ และช่วยประหยัดเงินเพิ่มขึ้นได้
  8. ลดโลกร้อนด้วยการเช็คลมยางก่อนสตาร์ทเพราะการขับรถที่มีลมยางน้อย จะใช้พลังงานมาก ส่งผลให้ใช้น้ำมันมากขึ้นถึง 3% และยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไซด์มากขึ้นอีกด้วย
  9. ลดโลกร้อนด้วยการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นทั้งที่บ้านและในสำนักงาน ควรปิดสวิตช์ และดึงปลั๊กออกทุกครั้ง เพื่อตัดวงจรไฟฟ้า ลดการใช้ไฟบ้าน จะช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 16%
  10. ลดโลกร้อนด้วยการรีดผ้าครั้งละมาก ๆเพราะเตารีดก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสูง การรีดผ้าครั้งละตัวสองตัว ช่วงเวลาที่รอให้เตารีดร้อนนั่นเองที่ทำให้เปลืองไฟมากขึ้นโดยไม่จำเป็น
  11. ลดโลกร้อนด้วยการตากผ้ากับแดดเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ โดยใช้ประโยชน์จากแสงแดดทำให้ผ้าแห้ง แทนการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องอบผ้าที่มีส่วนปล่อยก๊าซเรือนกระจก

    รูป05%2010%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99.png?ver=2019-08-06-113640